รีวิว AKG Y50BT: On-Ear Bluetooth Headphones

เมื่อทราบว่ายี่ห้อเอเคจี (AKG) ได้ทำหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ในตระกูล Y50 ออกมา ผมรู้สึกมีความกระตือรือร้นอยากฟังเสียงของมันมาก เพราะว่าส่วนตัวผมมีหูฟัง Y50 รุ่นเดิมใช้งานอยู่แล้ว มันเป็นหูฟังแบบมีสายซึ่งออกมาก่อนหน้า ผมคาดหวังลึกๆ ว่าถ้าเสียงของรุ่นไร้สายได้สัก 70-80% ของรุ่นมีสายก็น่าจะดี เพราะการไม่มีสายมันจะใช้งานได้สะดวกกว่ากันมาก แต่เอาเข้าจริงแล้วสิ่งที่ผมได้พบเจอก็ทำให้ผมแปลกใจเพราะดูเหมือนว่าหูฟังไร้สายรุ่นใหม่นี้จะทำตัวเลขเปอร์เซ็นต์ของคุณภาพที่ว่าได้ดีกว่านั้นมาก มากจนอาจจะเกิน 100% เลยก็เป็นได้!
คุณสมบัติและการออกแบบ Y50BT เป็นหูฟังแบบไร้สายเชื่อมต่อด้วยสัญญาณบลูทูธรุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบขึ้นมาบนพื้นฐานเดียวกับหูฟังรุ่น Y50 ซึ่งเป็นหูฟังแบบมีสายตามปกติ ก่อนหน้านี้ผมทราบมาว่าหูฟังรุ่น Y50 ได้รับรางวัล Red Dot Award 2015 ในสาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์ ดังนั้นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาสำหรับ Y50BT ซึ่งถอดแบบกันมาจึงหายห่วง เรียกว่าใส่แล้วเท่ได้ไม่อายใคร ที่สำคัญมันอาจจะเท่กว่าซะด้วยซ้ำเพราะว่ามันไม่มีสายหูฟังมาเกะกะ!
Y50BT ยังคงใช้ไดรเวอร์ขนาด 40mm เท่ากับที่ใช้อยู่ในหูฟังรุ่น Y50 แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth v3.0 รองรับเทคโนโลยีการถอดรหัสสัญญาณเสียงแบบ aptX และ AAC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีและเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง ณ เวลานี้แม้แต่ในกลุ่มเครื่องเสียงไฮไฟ
นอกจากการใช้ส่งสัญญาณเสียงรวมถึงการควบคุมการเล่นเพลงและควบคุมความดังของระดับเสียงแล้ว ฟังก์ชั่นบลูทูธใน Y50BT ยังรองรับการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์ในลักษณะแฮนด์ฟรีคือในระหว่างที่ฟังเพลงอยู่ถ้าหากมีสายเรียกเข้าก็สามารถกดรับสายที่ตัวหูฟังโดยตรงแล้วเริ่มการสนทนาได้เลย จะวางสายก็กดที่ตัวหูฟังได้โดยตรงเช่นกัน
แบตเตอรี่แบบรีชาร์จในตัว Y50BT สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟจนเต็มหนึ่งครั้ง การชาร์จแบตเตอรี่สามารถชาร์จเข้ามาทางขั้วต่อ micro USB ที่ตัวหูฟังผ่านโดยใช้แหล่งจ่ายไฟ 5V จากพอร์ต USB ทั่วไป
แกะกล่องลองใช้และเทียบกับ Y50 ในกล่องใส่ตัวสินค้าที่มีรูปลักษณ์ทันใหม่ของ AKG หูฟัง Y50BT ตัวนี้เป็นอะไรที่โดดเด่นสะดุดตาตั้วแต่มันยังอยู่ในกล่อง เรื่องของดีไซน์ก็อย่างที่ว่าล่ะครับมันถอดแบบกันมาเลยทีเดียวกับรุ่น Y50 คือเป็นหูฟังแบบออนเอียร์ระบบปิดหลัง (Closed-back) ซึ่งป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ด้านดีไซน์เป็นการโชว์ความเฉียบคมที่ค่อนข้างเรียบง่าย แสดงความภาคภูมิใจในแบรนด์ด้วยโลโกยี่ห้อสินค้าขนาดใหญ่โตไว้ที่ฝาปิดเอียร์คัพ

เมื่อเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตาของ Y50BT และ Y50 ผมพบว่าหูฟังสองรุ่นนี้มีส่วนที่เหมือนกันมากกว่า 80-90% แตกต่างกันแค่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น อย่างเช่น Y50BT จะมีแถบเฮดแบนด์และก้านยึดเอียร์คัพที่มีขนาดใหญ่กว่า ดูแข็งแรงกว่า เนื่องจากต้องรองรับน้ำหนักตัวที่มากขึ้นเล็กน้อยจากตัววงจรอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่ ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ทำให้เอียร์คัพของ Y50BT จะมีความหนามากกว่าอีกเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
แถบเฮดแบนด์ที่ใหญ่กว่ายังคงมาพร้อมกับแถบสเกลปรับขนาดความกว้างของหูฟัง แถบฟองน้ำส่วนที่แนบกับศีรษะและใบหูของตัวเฮดแบนด์และเอียร์คัพหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์แบบเดียวกับในรุ่น Y50 นอกจากนั้นหูฟังรุ่นนี้ยังคงออกแบบให้พับเก็บจนแบนราบได้ด้วยดีไซน์ '3D-Axis folding mechanism' เหมือนกับในรุ่น Y50 ทำให้สะดวกในการจัดเก็บและเหมาะมากกับการใช้งานแบบพกพา

ในกล่องใส่สินค้าจากตัวหูฟังแล้ว ยังมีสายหูฟังสำรองยาว 1.2 เมตรมาให้ใช้งานอีก 1 เส้น สายเส้นนี้เผื่อไว้ให้ใช้งานในกรณีที่ระบบบลูทูธไม่พร้อมใช้งานเช่น แบตเตอรี่หมดหรือตัวแหล่งสัญญาณไม่มีระบบบลูทูธ หรือมีระบบบลูทูธที่มีคุณภาพไม่ดีพอ สายเส้นนี้เชื่อมต่อได้โดยตรงกับตัวหูฟังผ่านทางขั้วต่อมินิโฟน 2.5mm ที่ตัวหูฟังทางด้านขวามือ นอกจากนั้นยังมีสาย micro USB สำหรับใช้ชาร์จไฟเข้าตัวหูฟังมาให้ 1 เส้น พร้อมทั้งถุงผ้าสำหรับเก็บตัวหูฟังและอุปกรณ์
นอกจากขั้วต่อสำหรับสายหูฟังที่ให้มาเป็นออพชั่นแล้ว ที่ตัวหูฟังทางด้านขวายังเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมทั้งหมดและไมโครโฟนที่ใช้สำหรับฟังก์ชั่นบลูทูธแฮนด์ฟรี ส่วนที่หูฟังด้านซ้ายมีไฟ LED แสดงผลสถานะการเชื่อมต่อบลูทูธและการชาร์จแบตเตอรี่ รวมถึงขั้วต่อ micro USB สำหรับชาร์จไฟ

ปุ่มกดเปิด-ปิดและปุ่มที่ทำหน้าในการ pairing กับอุปกรณ์บลูทูธจะอยู่ในปุ่มเดียวกัน เวลาใช้งานจริงสะดวกมากครับเพราะกดแค่ปุ่มเดียวก็สามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับอุปกรณ์ที่ pair กันไว้ได้เลย นอกจากนั้นยังมีปุ่มควบคุมมาตรฐานอีก 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มเร่ง-ลดวอลุ่มและปุ่มกลางสำหรับควบคุมการเล่นเพลงแบบมัลติฟังก์ชั่น เช่น กดเบิ้ลเป็นข้ามแทรคไปข้างหน้า, กดสามครั้งเป็นย้อนไปแทรคก่อนหน้า หรือจะเป็นการกดเพื่อรับหรือวางสายโทรศัพท์
ฟังก์ชั่นแฮนด์ฟรีและการควบคุมการเล่นเพลงที่กระทำผ่านระบบบลูทูธเหมือนอย่างในหูฟังรุ่นนี้ มันช่วยให้ไม่มีเรื่องรูปแบบของขั้วต่อที่แตกต่างกันระหว่างอุปกรณ์ iOS และ Android เหมือนในหูฟังรุ่นมีสายที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการจำกัดการใช้งานหรือต้องทำแยกเวอร์ชั่นกันให้วุ่นวาย
สำหรับการสวมใส่ใช้งาน Y50BT ยังให้ความรู้สึกเดียวกับ Y50 เพียงแต่รู้สึกว่ากระชับกว่าเล็กน้อยและไม่บีบรัดมากเท่าเมื่อใส่ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ซึ่งตรงนี้ก็น่าแปลกเพราะตัวหูฟังมีน้ำหนักมากกว่าแต่กลับใส่สบายกว่าหูฟังรุ่นพี่เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ดีถ้าหากใส่ฟังเป็นระยะเวลานานหูฟังแบบออนเอียร์ที่มีการกดทับโดยตรงที่ใบหูก็ยังสบายหูสู้หูฟังแบบโอเวอร์เอียร์ที่ครอบไปทั้งใบหูไม่ได้อยู่ดีครับ
เมื่อไร้สายเสียงดีกว่ามีสาย มันน่าแปลกไหมล่ะครับที่ผมฟังเสียงของหูฟังตัวนี้แล้วพบว่ามันเสียงดีกว่ารุ่น Y50 ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบไร้สายหรือใช้งานแบบมีสายเหมือนกัน ส่วนตัวในฐานะที่ใช้หูฟัง Y50 มาได้สักพักใหญ่ๆ ผมคิดว่าอะไรที่ผมชอบใน Y50 มันยังอยู่ใน Y50BT และอะไรที่ผมไม่ชอบใน Y50 มันได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นใน Y50BT เรียกว่าส่วนดีเก็บไว้ ส่วนที่ยังไม่ใช่ก็ได้รับการปรับปรุง

จากผลการฟังเปรียบเทียบทำให้ผมเริ่มไม่ค่อยแน่ใจว่าหูฟังทั้งสองรุ่นใช้ไดรเวอร์ตัวเดียวกันหรือไม่ หรือว่าหูฟังรุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงแก้ไขอะไรไปบ้าง แต่จุดเด่นในเรื่องของมิติเสียงที่โปร่งโล่งไม่อุดอู้ยังคงตกทอดมาถึง Y50BT ด้านเสียงกลางและเสียงแหลม ยังคงมีความสดใสเป็นธรรมชาติ และให้รายละเอียดหยุมหยิมได้กระจ่างชัดดี ขณะที่หูฟังรุ่นใหม่นี้มีสมดุลเสียงตลอดย่านความถี่ที่ฟังดูนุ่มนวลฟังสบายมากขึ้นด้วยครับ ลักษณะเสียงที่ดูล้นๆ เกินๆ ในบางย่านความถี่ในช่วงเสียงกลางสูงขึ้นไปของ Y50 ไม่ปรากฎเลยใน Y50BT มันให้เสียงที่ฟังสบายหูขึ้นชัดเจน สามารถเข้ากับแหล่งสัญญาณได้หลากหลายกว่า รองรับแนวเพลงได้หลากหลายกว่า แม้แต่ source อย่าง YouTube ก็เข้ากับ Y50BT ได้ดีกว่า
ทั้งหมดที่ว่ามานั้นไม่เกี่ยงด้วยนะครับว่าผมฟัง Y50BT ในโหมดไร้สายเชื่อมต่อด้วยบลูทูธหรือเสียบสายหูฟัง ตรงนี้มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากครับ “เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่หูฟังแบบไร้สายเสียงดีกว่าหูฟังแบบมีสาย” โดยเฉพาะเมื่อฟังจากอุปกรณ์ที่ใช้ระบบส่งบลูทูธรุ่นใหม่ๆ อย่างเช่น ในกรณีนี้ผมพบว่าเสียงที่สตรีมผ่ายบลูทูธมาจาก iPad Air 2 และเครื่องเล่นเพลงวอล์คแมนระบบ Hi-Res Audio - Sony NW-A25 มีส่วนทำให้ Y50BT ทำงานได้อย่างเต็มที่และให้คุณภาพเสียงออกมาดีมาก ดีกว่าการสตรีมมาจากอุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง iPhone 4s
ในภาพรวมลำพังถ้าพูดถึงเรื่องเสียง Y50BT เด่นเรื่องของมิติและสมดุลเสียงซึ่งทั้งสองส่วนนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญนะครับสำหรับคนที่เข้มงวดเรื่องคุณภาพเสียง ส่วนตัวผมว่าในงบประมาณใกล้เคียงกันนี้ผมยังไม่เคยเจอหูฟังไร้สายตัวไหนที่ให้เสียงออกมาถูกใจผมได้มากขนาดนี้ ผมว่าทาง AKG จูนเสียงของ Y50BT ตัวใหม่มาได้ดีมาก ผมคิดว่ามันน่าจะให้คนที่รักดีไซน์ของหูฟังตระกูล Y50 ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาก เพราะนอกจากเสียงที่ดีขึ้นแล้ว ในด้านการใช้งาน Y50BT ยังได้เปรียบเหนือกว่าทุกประการ
แบตเตอรี่ที่ตามสเปคฯ ระบุว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 20 ชั่วโมง ผมพบว่าในการใช้งานจริง ถ้าหากเราไม่ได้ฟังเพลงกันแบบมาราธอนอย่างนั้น ผมชาร์จแบตทีหนึ่งอยู่ได้เป็นสัปดาห์เลยครับ ดังนั้นเรื่องอายุใช้งานของแบตเตอรี่สำหรับหูฟังรุ่นนี้ต้องถือว่ายาวนานหายห่วง แถมเวลาชาร์จยังชาร์จเต็มได้เร็วด้วยต่างหาก
หูฟังไร้สายที่ผมรัก ผมพยายามนึกถึงข้อเสียของ Y50BT เพื่อมาบาลานซ์กับความเห็นในเชิงบวกทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ผมไม่เจอข้อเสียที่ร้ายแรงใดๆ เกี่ยวกับคุณภาพของเสียง นั่นคือจุดเด่นที่หูฟังรุ่นนี้ทำได้ดีเกินคาด แม้ว่าเมื่อเทียบกับหูฟังที่เสียงโปร่งกว่ามันจะฟังดูเหมือนมีคัลเลอร์เล็กๆ ที่ย่านความถี่กลางต่ำลงไปซึ่งมีผลให้ดุลเสียงทุ้มของมันเอนเอียงไปทางอบอุ่นนุ่มนวลเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายเพราะรายละเอียดอื่นๆ ยังผุดโผล่ออกมาได้ ไม่ได้จมหายไปไหน ด้านรายละเอียดของเสียงทุ้มก็ยังแยกแยะออกมาได้ดีอยู่พอสมควรทั้งหัวเสียงและหางเสียง

สำหรับปุ่มควบคุมที่วางเอาไว้ตรงขอบของเอียร์คัพ ทีแรกผมคิดว่ามันจะใช้งานยาก ซึ่งในช่วงแรกก็เกือบจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับเพราะยังไม่ค่อยคุ้นเคย แต่พอเริ่มคุ้นเคยกันแล้วผมกลับรู้สึกว่ามันใช้งานสะดวกดี เผลอๆ อาจจะสะดวกกว่าการควบคุมแบบสัมผัสที่นิยมใช้ในหูฟังไร้สายหลายรุ่น ที่มักจะเผลอไปสัมผัสโดนโดยไม่ได้ตั้งใจเสียอีกครับ
โดยสรุปสำหรับ AKG Y50BT นี่คือหูฟังไร้สายที่คุณภาพคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เป็นหูฟังที่ในช่วงระหว่างการทดสอบผมหยิบมาใช้บ่อยที่สุดไม่ว่าจะเป็นการดูหนังฟังเพลงอย่างจริงจังหรือไม่จริงจัง เพราะว่านอกจากเสียงดีแล้วมันใช้ได้ง่ายมาก แค่กดปุ่มเดียวรอการเชื่อมต่อเพียงไม่กี่วินาทีมันก็พร้อมใช้งานทันที ลองใช้เองแล้วจะทราบดีครับว่าหูฟังเสียงดีๆ เวลาที่มันไม่มีสายแล้ว ความน่าหยิบมาใช้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ และนั่นคือเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ Y50BT เป็นหูฟังรุ่นล่าสุดที่ผมรับเข้าประจำการเพื่อใช้งานเป็นการส่วนตัวครับ
Specification Sensitivity : 113dB SPL/V Frequency range : 20-20kHz MAX input power : 30mW Impedance : 32ohms Cable length : 1.2m detachable audio cable Connection : Jack 3.5mm Bluetooth version : 3.0
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท เอ็ม.ไอ.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โทร.0-2254-3316-9